แนวข้อสอบเก่ากรมการปกครอง
************************
1. ข้อใดคืออำนาจหน้าที่ของกรมการปกครอง
ก. กำกับดูแลและส่งเสริมพัฒนาการประกอบธุรกิจการค้าในประเทศให้มีการแข่งขัน และมีการค้าที่เป็นธรรม
ข. พัฒนาระบบตลาด รวมทั้งส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดและตลาดในประเทศ เพื่อสร้างโอกาสการและความเป็นธรรมแก่เกษตรกร ผู้ผลิตที่เกี่ยวข้อง
ค. พิจารณาเสนอแนะนโยบายและมาตรการเกี่ยวกับการวางระบบช่วยเหลือเกษตรกร
ต่อคณะรัฐมนตรี
ง. เสนอแนะนโยบายและจัดทำแผน มาตรการ ติดตาม และประเมินผลด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายใน
ตอบ ง. เสนอแนะนโยบายและจัดทำแผน มาตรการ ติดตาม และประเมินผลด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายใน
2. ข้อใดไม่ใช่คุณสมบัติของการสมัครเป็นผู้ใหญ่บ้าน
ก. อายุไม่ต่ำกว่า 30 ปีบริบูรณ์ในวันรับเลือก
ข. มีสัญชาติไทยโดยการเกิด
ค. ไม่เป็นผู้มีอิทธิพลหรือเสียชื่อในทางพาลหรือทางทุจริต หรือเสื่อมเสียในทางศีลธรรม
ง. มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่เป็นประจำ และมีชื่อในทะเบียนบ้านตามกฎหมายว่าด้วยการทะเบียนราษฎรในหมู่บ้านนั้นติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีจนถึงวันเลือก
ตอบ ก. อายุไม่ต่ำกว่า 30 ปีบริบูรณ์ในวันรับเลือก
3. ข้อใดมีฐานะเป็นนิติบุคคล
ก. สำนักนายกรัฐมนตรี ค. ทบวง
ข. กรม ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
4. การจัดตั้ง การรวมหรือ การโอน สำนักนายกรัฐมนตีให้ออกเป็นกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติ ค.กฎกระทรวง
ข. พระราชกฤษฎีกา ง.ประกาศกระทรวง
ตอบ ก. พระราชบัญญัติ
5. การจัดตั้ง การรวมหรือการโอน ทบวง ให้ออกเป็นกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติ ค.กฎกระทรวง
ข. พระราชกฤษฎีกา ง.ประกาศกระทรวง
ตอบ ค.กฎกระทรวง
6. การรวบหรือการโอนกระทรวงถ้าไม่มีการกำหนดตำแหน่งหรืออัตราข้าราชการหรือลูกจ้างเพิ่มขึ้นให้ออกเป็นกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติ ค.กฎกระทรวง
ข. พระราชกฤษฎีกา ง.ประกาศกระทรวง
ตอบ ข.พระราชกฤษฎีกา
7. การรวบหรือการโอนกระทรวงถ้าไม่มีการกำหนดตำแหน่งหรืออัตราข้าราชการหรือลูกจ้างเพิ่มขึ้น ให้สำนักงานก.พ.และสำนักงบประมาณตรวจสอบมิให้มีการกำหนดตำแหน่งข้าราชการหรือลูกจ้างเพิ่มขึ้นจนกว่าจะครบกี่ปี
ก. 5 ปี ค. 4 ปี
ข. 6 ปี ง. 3 ปี
ตอบ ง. 3 ปี
8. การเปลี่ยนชื่อส่วนราชการของ สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม ให้ออกเป็นกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติ ค.กฎกระทรวง
ข. พระราชกฤษฎีกา ง.ประกาศกระทรวง
ตอบ ข. พระราชกฤษฎีกา
9. หนังสือราชการมีกี่ชนิด
ก. 4 ชนิด ค. 6 ชนิด
ข. 5 ชนิด ง. 7 ชนิด
ตอบ ค. 6 ชนิด
10. จะต้องตั้งคณะกรรมการกี่คนก่อนที่จะทำลายหนังสือ
ก. 2 คน ค. 4 คน
ข. 3 คน ง. 5 คน
ตอบ ข.3 คน
11. หนังสือประเภทใดบ้างที่ไม่สามารถทำลายได้
ก. หนังสือที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ค. หนังสือที่เป็นเรื่องธรรมดาสามัญ
ข. หนังสือที่เกี่ยวกับการเงิน ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ก. หนังสือที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์
12. อายุการเก็บหนังสือมีระยะเวลากี่ปี
ก. ไม่น้อยกว่า 1 ปี ค. ไม่น้อยกว่า 10 ปี
ข. ไม่น้อยกว่า 5 ปี ง. ไม่น้อยกว่า 3 ปี
ตอบ ค. ไม่น้อยกว่า 10 ปี
13. หนังสือที่ไม่สำคัญเก็บกี่ปี
ก. ไม่น้อยกว่า 1 ปี ค. ไม่น้อยกว่า 10 ปี
ข. ไม่น้อยกว่า 5 ปี ง. ไม่น้อยกว่า 3 ปี
ตอบ ก. ไม่น้อยกว่า 1 ปี
14. การตั้ง การยุบ เปลี่ยนแปลงจังหวัดให้ตราเป็นกฏหมายใด
ก. พระราชบัญญัติ ค. กฏกระทรวง
ข. พระราชกฤษฎีกา ง. ประกาศกระทรวง
ตอบ ก. พระราชบัญญัติ
15. การตั้ง การยุบ เปลี่ยนแปลงอำเภอให้ตราเป็นกฎหมายใด
ก. พระราชบัญญัติ ค. กฎกระทรวง
ข. พระราชกฤษฎีกา ง. ประกาศกระทรวง
ตอบ ข. พระราชกฤษฎีกา
16. "ปีงบประมาณ" หมายความว่า
ก. ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคมของปีหนึ่งถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป
ข. ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมของปีหนึ่งถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป
ค. ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนของปีหนึ่งถึงวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป
ง. ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคมของปีหนึ่งถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป
ตอบ ข. ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมของปีหนึ่งถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป
"ปีงบประมาณ" หมายความว่า ระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมของปีหนึ่งถึงวันที่ 30 กันยายนของปีถัดไป และให้ใช้ปี พ.ศ. ที่ถัดไปนั้นเป็นชื่อสำหรับปีงบประมาณนั้น
17. ใครมีอำนาจหน้าที่จัดทำงบประมาณ กับปฏิบัติการอย่างอื่นตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติ
ก. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ค. หัวหน้าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
ง. เจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
ตอบ ก. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
18. ใครเป็นผู้จัดทำงบประมาณ
ก. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ค. หัวหน้าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
ง. เจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
ตอบ ง. เจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
มาตรา 12 ให้หัวหน้าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งเป็นเจ้าหน้าที่งบประมาณ มีหน้าที่เกี่ยวกับงบประมาณของส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจนั้น
19. ถ้าพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีออกใช้ไม่ทันปีงบประมาณใหม่ ต้องทำอย่างไร
ก. เสนอขอนายกรัฐมนตรีในการเลื่อนใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณใหม่
ข. เสนอขอรัฐสภาในการเลื่อนใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณใหม่
ค. เสนอขอคณะรัฐมนตรีในการเลื่อนใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณใหม่
ง. ให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณที่ล่วงแล้วไปพลางก่อน
ตอบ ง. ให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณที่ล่วงแล้วไปพลางก่อน
20. ใครเป็นผู้รับผิดชอบในการควบคุมงบประมาณเพื่อปฏิบัติการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ก. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ค. หัวหน้าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
ง. เจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากหัวหน้าส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
21. ใครเป็นผู้กำหนดให้ส่วนราชการจ่ายเงินโดยไม่ต้องขออนุมัติเงินประจำงวดในกรณีที่รายจ่ายใดมีจำนวนและระยะเวลาการจ่ายเงินที่แน่นอน
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ข. นายกรัฐมนตรี
ค. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
ง. ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
ตอบ ง.ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี
22. หน่วยงานใดสามารถทำการก่อหนี้ผูกพันที่เป็นการกู้ยืมเงินหรือการค้ำประกันได้
ก. ส่วนราชการต่างๆ ค. กระทรวงการคลัง
ข. รัฐวิสาหกิจ ง. สำนักงบประมาณ
ตอบ ค. กระทรวงการคลัง
23. รัฐวิสาหกิจที่ไม่ใช่นิติบุคคล ถ้ามีความจำเป็นต้องกู้ยืมเงินเพื่อใช้ดำเนินกิจการต้องขอต่อใคร
ก. กระทรวงเจ้าสังกัด ค. สำนักงบประมาณ
ข. กระทรวงการคลัง ง. นายกรัฐมนตรี
ตอบ ก. กระทรวงเจ้าสังกัด
24. ข้อใดคือเงินที่ส่วนราชการนำส่งคลังตามระเบียบหรือข้อบังคับที่รัฐมนตรีกำหนด
ก. บรรดาเงินที่ส่วนราชการได้รับเป็นกรรมสิทธิ์
ข. เงินได้รับจากการให้ใช้ทรัพย์สิน
ค. ดอกผลจากทรัพย์สินของราชการ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
25. การขอเบิกเงินจากคลังตามงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณใด ให้กระทำได้แต่เฉพาะภายในปีงบประมาณนั้น เว้นแต่
ก. เป็นงบประมาณรายจ่ายข้ามปี
ข. เป็นงบประมาณรายจ่ายที่ได้ก่อหนี้ผูกพันไว้ก่อนสิ้นปีงบประมาณ
ค. เป็นงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีให้เบิกเหลื่อมปี และได้มีการกันเงินไว้ตามระเบียบหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินจากคลัง
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
26. "เงินทุนสำรองจ่าย" มีจำนวนเท่าใด
ก. หนึ่งร้อยล้านบาท ค. สามร้อยล้านบาท
ข. สองร้อยล้านบาท ง. สี่ร้อยล้านบาท
ตอบ ก. หนึ่งร้อยล้านบาท
27. กรมการปกครองสังกัดกระทรวงใด
ก. กระทรวงคมนาคม ค. กระทรวงพาณิชย์
ข. กระทรวงมหาดไทย ง. กระทรวงการคลัง
ตอบ ข.กระทรวงมหาดไทย
28. กรมการปกครองตั้งอยู่ที่เขตใดในกรุงเทพมหานคร
ก. พระนคร ค. บางนา
ข. หลักสี่ ง.สาทร
ตอบ ก. พระนคร
29. ข้อใดคือเว็บไซด์ของกรมการปกครอง
ก. www.cod.go.th ค. www.cod.co.th
ข. www.cdd.go.th ง. www.dopa.go.th
ตอบ ง. www.dopa.go.th
30. กรมการปกครองมีชื่อย่อว่าอะไร
ก. กค. ค. ปค.
ข. กพช. ง. กปค.
ตอบ ค. ปค.
31. กรมการปกครองก่อตั้งขึ้นเมื่อใด
ก. 1 พฤศจิกายน 2435 ค. 1 มีนาคม 2435
ข. 1 เมษายน 2435 ง. 1 ตุลาคม 2435
32. อธิบดีกรมการปกครองคนปัจจุบันคือใคร
ก. นายขวัญชัย วงศ์นิติกร ค. นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล
ข. นายฐานิสร์ เทียนทอง ง. นายชวน ศิรินันท์พร
ตอบ ค. นายศิริพงษ์ ห่านตระกูล
33. ข้อใดเป็นอำนาจหน้าที่ของกรมการปกครอง
ก. กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ มาตรการ และแนวทางในการพัฒนาชุมชนระดับชาติ เพื่อให้หน่วยงานของรัฐ เอกชน
ข. เสนอแนะนโยบายและจัดทำแผน มาตรการ ติดตาม และประเมินผลด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายในและมาตรฐานการพัฒนาของชุมชน
ค. สนับสนุน ส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และการเลือกตั้งทุกระดับ
ง. ถูกทั้ง ข และ ค
ตอบ ง. ถูกทั้ง ข และ ค
34. ข้อใดคือค่านิยมของกรมการปกครอง
ก. บำบัดทุกข์ บำรุงสุข ค. รู้รัก สามัคคี มีวินัย
ข. เอาใจใส่ รับใช้ประชาชน ง. บริการช่วยเหลือ ประชาชน
ตอบ ก. บำบัดทุกข์ บำรุงสุข
35. ยุทธศาสตร์กรมการปกครองอยู่ในช่วงปี พ.ศ.ใด
ก. พ.ศ. 2554 – 2557 ค. พ.ศ. 2556 – 2559
ข. พ.ศ. 2555 – 2558 ง. พ.ศ. 2557 – 2560
ตอบ ข. พ.ศ. 2555 – 2558
36. ยุทธศาสตร์กรมการปกครองมีกี่ข้อ
ก. 3 ข้อ ค. 5 ข้อ
ข. 4 ข้อ ง. 6 ข้อ
ตอบ ข.4 ข้อ
37. ข้อใดคือวิสัยทัศน์กรมการปกครอง
ก. เป็นองค์กรหลัก มุ่งบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อบำบัดทุกข์ ให้แก่ประชาชน
ข. เป็นองค์กรหลัก มุ่งบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน
ค. เป็นองค์กรธรรมาภิบาล มุ่งบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อบำบัดทุกข์ ให้แก่ประชาชน
ง. เป็นองค์กรธรรมาภิบาล มุ่งบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน
ตอบ ง.เป็นองค์กรธรรมาภิบาล มุ่งบูรณาการทุกภาคส่วน เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่ประชาชน
38. ข้อใดคือพันธกิจของกรมการปกครอง
ก. อำนวยการและสนับสนุนการปฏิบัติงานตามอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของนายอำเภอ
ข. ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยกองอาสารักษาดินแดน
ค. ดำเนินการพัฒนาบุคลากรในด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายใน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ