*********************
1. พระราชบัญญัติวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้ไว้ ณ วันใด
ก. ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ค. ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖
ข. ๑๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖ ง. ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๖
ตอบ ก. ๑๔ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๖
2. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับความหมายของ “วิชาชีพสังคมสงเคราะห์”
ก. วิชาชีพที่ต้องใช้ความรู้
ข. วิชาชีพที่ต้องใช้ความรู้และทักษะทางสังคมสงเคราะห์
ค. วิชาชีพที่ต้องใช้ความรู้และทักษะทางสังคมสงเคราะห์ในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาของบุคคลเท่านั้น
ง. วิชาชีพที่ต้องใช้ความรู้และทักษะทางสังคมสงเคราะห์ในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาของบุคคล ครอบครัว กลุ่มคน หรือชุมชน
ตอบ ง. วิชาชีพที่ต้องใช้ความรู้และทักษะทางสังคมสงเคราะห์ในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาของบุคคล ครอบครัว กลุ่มคน หรือชุมชน
“วิชาชีพสังคมสงเคราะห์” หมายความว่า วิชาชีพที่ต้องใช้ความรู้และทักษะทางสังคมสงเคราะห์ในการปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาของบุคคล ครอบครัว กลุ่มคน หรือชุมชนเพื่อให้กระทำหน้าที่ทางสังคมและดำรงชีวิตได้อย่างปกติสุข
3. ใครคือผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมไม่เกินอัตราท้ายพระราชบัญญัตินี้และออกระเบียบเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
4. พระราชบัญญัติวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ พ.ศ. ๒๕๕๖ มีกี่หมวด กี่มาตรา
ก. 5 หมวด 40 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล ค. 6 หมวด 40 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ข. 5 หมวด 50 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล ง. 6 หมวด 50 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ตอบ ง. 6 หมวด 50 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
5. สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์มีฐานะเป็นอะไร
ก. หน่วยงานอิสระ ค. นิติบุคคล
ข. เอกชน ง. รัฐวิสาหกิจ
ตอบ ค. นิติบุคคล
มาตรา ๕ ให้มีสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมมาตรฐาน จรรยาบรรณส่งเสริม และพัฒนาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือหรือบริการทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ให้สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์มีฐานะเป็นนิติบุคคล
6. สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์มีอำนาจหน้าที่อะไร
ก. จัดทำหลักสูตรสำหรับการฝึกอบรมในวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ข. กำหนดมาตรฐานการให้บริการของผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ค. รับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๖ สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์มีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) รับขึ้นทะเบียนและออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต
(๒) กำหนดมาตรฐานการให้บริการของผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
(๓) จัดทำหลักสูตรสำหรับการฝึกอบรมในวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์หรือสถาบันอื่นที่สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์มอบหมายให้ดำเนินการฝึกอบรมในวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
(๔) ออกหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต
(๕) ออกหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตสาขาต่าง ๆ
(๖) ออกคำสั่งตามมาตรา ๔๐ วรรคสาม
(๗) ส่งเสริมการศึกษา การอบรม และการวิจัย ในการประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รวมทั้งส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์และหน่วยงานทางสังคมสงเคราะห์
(๘) รับรองปริญญาของสถาบันต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการสมัครเป็นสมาชิกตามมาตรา ๑๐ (๒)
(๙) ให้ความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดทำหลักสูตรการศึกษาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ในระดับอุดมศึกษาของสถาบันการศึกษา
(๑๐) ผดุงไว้ซึ่งเกียรติ สิทธิ ความเป็นธรรม และส่งเสริมความก้าวหน้าในการประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ความสามัคคี และสวัสดิการให้แก่สมาชิก
(๑๑) เป็นตัวแทนผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ของประเทศไทย
(๑๒) ดำเนินการอื่นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
7. สมาชิกสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์มีกี่ประเภท
ก. 3 ประเภท ค. 5 ประเภท
ข. 4 ประเภท ง. 6 ประเภท
ตอบ ข.4 ประเภท
มาตรา ๙ สมาชิกสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์มีสี่ประเภท ดังต่อไปนี้
(๑) สมาชิกสามัญ
(๒) สมาชิกวิสามัญ
(๓) สมาชิกสมทบ
(๔) สมาชิกกิตติมศักดิ์
8. สมาชิกสามัญต้องมีอายุเท่าใด
ก. อายุไม่ต่ำกว่า 30 ปีบริบูรณ์ ค. อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
ข. อายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ ง. อายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
ตอบ ค. อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
9. ข้อใดคือสิทธิและหน้าที่ของสมาชิกสามัญ
ก. ขอขึ้นทะเบียนและขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต
ข. แสดงความเห็นและสอบถามเป็นหนังสือเกี่ยวกับกิจการของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ส่งไปยังคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
ค. ชำระค่าขึ้นทะเบียนสมาชิก ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในข้อบังคับ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๑๑ สมาชิกสามัญมีสิทธิและหน้าที่ ดังต่อไปนี้
(๑) ขอขึ้นทะเบียนและขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตหรือขอหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตสาขาต่าง ๆ
(๒) แสดงความเห็นและสอบถามเป็นหนังสือเกี่ยวกับกิจการของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ส่งไปยังคณะกรรมการเพื่อพิจารณา และในกรณีที่สมาชิกสามัญร่วมกันตั้งแต่ห้าสิบคนขึ้นไป เสนอให้คณะกรรมการพิจารณาเรื่องใดที่เกี่ยวกับกิจการของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ คณะกรรมการต้องพิจารณาและแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้เสนอทราบภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ได้รับเรื่อง
(๓) เลือกตั้ง รับเลือกตั้ง หรือรับเลือกเป็นกรรมการหรือดำรงตำแหน่งอื่นอันเกี่ยวกับกิจการของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ตามพระราชบัญญัตินี้
(๔) ชำระค่าขึ้นทะเบียนสมาชิก ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในข้อบังคับ
(๕) ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพสังคมสงเคราะห์และปฏิบัติตนตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
(๖) ได้รับสวัสดิการหรือบริการอื่น ๆ ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
10. ข้อใด ไม่ใช่ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกวิสามัญ
ก. ขอขึ้นทะเบียนและขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต
ข. ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพสังคมสงเคราะห์และปฏิบัติตนตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
ค. เลือกตั้ง รับเลือกตั้ง หรือรับเลือกเป็นกรรมการหรือดำรงตำแหน่งอื่นอันเกี่ยวกับกิจการของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ง. ถูกทั้ง ก และ ค
ตอบ ง.ถูกทั้ง ก และ ค
สมาชิกวิสามัญมีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับสมาชิกสามัญ เว้นแต่สิทธิและหน้าที่ตามมาตรา
๑๑ (๑) และ (๓)
11. ข้อใด ไม่ใช่ สิทธิและหน้าที่ของสมาชิกกิตติมศักดิ์
ก. ผดุงไว้ซึ่งเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพสังคมสงเคราะห์และปฏิบัติตนตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
ข. ได้รับสวัสดิการหรือบริการอื่น ๆ ตามระเบียบที่คณะกรรมการกำหนด
ค. แสดงความเห็นและสอบถามเป็นหนังสือเกี่ยวกับกิจการของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ส่งไปยังคณะกรรมการเพื่อพิจารณา
ง. ชำระค่าขึ้นทะเบียนสมาชิก ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในข้อบังคับ
ตอบ ง. ชำระค่าขึ้นทะเบียนสมาชิก ค่าบำรุง และค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในข้อบังคับ
สมาชิกกิตติมศักดิ์มีสิทธิและหน้าที่เช่นเดียวกับสมาชิกสามัญ เว้นแต่สิทธิและหน้าที่ตามมาตรา๑๑ (๑) (๓) และ (๔)
12. คณะกรรมการสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ มีกี่คน
ก. 32 คน ค. 35 คน
ข. 30 คน ง. 25 คน
ตอบ ก. 32 คน
มาตรา ๑๖ ให้มีคณะกรรมการสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ ประกอบด้วย
(๑) ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงยุติธรรม ผู้แทนกระทรวงแรงงาน ผู้แทนกระทรวงศึกษาธิการ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนกรุงเทพมหานคร เป็นกรรมการ
(๒) ผู้แทนสมาคมนักสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย เป็นกรรมการ
(๓) ผู้แทนสถาบันอุดมศึกษาที่จัดการศึกษาหลักสูตรสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ระดับปริญญาเลือกกันเองจำนวนสองคน เป็นกรรมการ
(๔) ผู้แทนองค์กรสาธารณประโยชน์ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมที่มีสมาชิกสามัญตามมาตรา ๙ (๑) ปฏิบัติงานอยู่ เลือกกันเองจำนวนสี่คน เป็นกรรมการ
(๕) สมาชิกสามัญซึ่งได้รับเลือกตั้งจากสมาชิกสามัญด้วยกันเองจำนวนสิบหกคน เป็นกรรมการ
13. ข้อใดคือคุณสมบัติของคณะกรรมการสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ก. ไม่เคยถูกศาลสั่งให้เป็นบุคคลล้มละลายทุจริต
ข. ไม่เคยถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตหรือเพิกถอนใบอนุญาต
ค. เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
14. คณะกรรมการสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละกี่ปี
ก. 2 ปี ค. 4 ปี
ข. 3 ปี ง. 5 ปี
ตอบ ข. 3 ปี
มาตรา ๑๙ ให้กรรมการตามมาตรา ๑๖ (๓) (๔) และ (๕) มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสามปี และอาจได้รับเลือกหรือได้รับเลือกตั้งใหม่ได้ แล้วแต่กรณี แต่กรรมการตามมาตรา ๑๖ (๕)จะดำรงตำแหน่งเกินสองวาระติดต่อกันไม่ได้
15. ข้อใดคืออำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ก. กำหนดแผนการดำเนินงานและงบประมาณของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ข. บริหารและดำเนินกิจการสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ค. แต่งตั้งที่ปรึกษาหรือคณะอนุกรรมการ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
16. ใครเป็นประธานในคณะกรรมการสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ก. อุปนายกสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ข. นายกสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ค. ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ง. ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย
ตอบ ข. นายกสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
17. ข้อใดคืออำนาจหน้าที่ของนายกสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ก. เป็นผู้แทนสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ในกิจการต่าง ๆ
ข. ประชาสัมพันธ์ แนะนำ และเผยแพร่กิจการของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์แก่ประชาชนและองค์กรอื่น
ค. กำกับดูแลและรับผิดชอบในงานธุรการทั่วไปของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ง. รับผิดชอบในการดูแลรักษาทะเบียนสมาชิก ทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์และทะเบียนอื่น ๆ ของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ตอบ ก. เป็นผู้แทนสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ในกิจการต่าง ๆ
นายกสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ มีอำนาจหน้าที่
(ก) บริหารและดำเนินกิจการของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้หรือตามมติของคณะกรรมการ
(ข) เป็นผู้แทนสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ในกิจการต่าง ๆ
(ค) เป็นประธานในที่ประชุมคณะกรรมการ
18. เลขาธิการ มีอำนาจหน้าที่อย่างไร
ก. ปฏิบัติงานอื่นตามที่นายกสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์มอบหมาย
ข. บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ทุกระดับ
ค. ควบคุมดูแลทรัพย์สินของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
เลขาธิการ มีอำนาจหน้าที่
(ก) บังคับบัญชาเจ้าหน้าที่สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ทุกระดับ
(ข) กำกับดูแลและรับผิดชอบในงานธุรการทั่วไปของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
(ค) ควบคุมดูแลทรัพย์สินของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
(ง) รับผิดชอบในการดูแลรักษาทะเบียนสมาชิก ทะเบียนผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์และทะเบียนอื่น ๆ ของสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
(จ) เป็นเลขานุการคณะกรรมการ
(ฉ) ปฏิบัติงานอื่นตามที่นายกสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์มอบหมาย
19. การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่าเท่าใด
ก. ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง ค. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 4
ข. ไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ง. ไม่น้อยกว่า 1 ใน 5
ตอบ ก. ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
มาตรา ๒๕ การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการที่ดำรงตำแหน่งอยู่ จึงจะเป็นองค์ประชุม
20. การควบคุมมาตรฐานและจรรยาบรรณการประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ อยู่ในหมวดที่เท่าใด
ก. หมวด 5 ค. หมวด 3
ข. หมวด 6 ง. หมวด 4
ตอบ ก. หมวด 5
21. วิชาชีพสังคมสงเคราะห์ใดที่เป็นวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต
ก. วิชาชีพสังคมสงเคราะห์ในหน่วยงานของรัฐ
ข. วิชาชีพที่ดำเนินการโดยผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมสงเคราะห์
ค. วิชาชีพที่ดำเนินการโดยนักสังคมสงเคราะห์หรือพนักงานสังคมสงเคราะห์ตามประมวลกฎหมาย
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๒๘ ให้วิชาชีพสังคมสงเคราะห์ดังต่อไปนี้ เป็นวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต
(๑) วิชาชีพที่ดำเนินการโดยนักสังคมสงเคราะห์หรือพนักงานสังคมสงเคราะห์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด กฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม กฎหมายว่าด้วยสุขภาพจิตกฎหมายว่าด้วยศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว หรือตามที่กฎหมายอื่นกำหนด
(๒) วิชาชีพที่ดำเนินการโดยผู้ทรงคุณวุฒิหรือผู้เชี่ยวชาญด้านสังคมสงเคราะห์หรือผู้ซึ่งเกี่ยวข้องกับงานด้านสังคมสงเคราะห์ ตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก กฎหมายว่าด้วยค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา กฎหมายว่าด้วยสุขภาพจิต กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กฎหมายว่าด้วยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม หรือตามที่กฎหมายอื่นกำหนด
(๓) วิชาชีพสังคมสงเคราะห์ในหน่วยงานของรัฐ
(๔) วิชาชีพสังคมสงเคราะห์อื่นตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา
22. กรณีใดที่สามารถประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตได้
ก. การช่วยเหลือประชาชนตามหน้าที่พลเมืองดีอันเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม
ข. นักเรียน นักศึกษา หรือผู้รับการฝึกอบรมซึ่งทำการฝึกหัดหรือฝึกอบรมในความควบคุมของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐหรือสถาบันที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการ
ค. บุคคลซึ่งหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรภาคเอกชนมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๒๙ ห้ามผู้ใดประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตหรือกระทำด้วยวิธีใด ๆที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนมีสิทธิที่จะประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตโดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตจากสภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ เว้นแต่ในกรณีอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
(๑) การช่วยเหลือประชาชนตามหน้าที่พลเมืองดีอันเป็นความรับผิดชอบต่อสังคม
(๒) นักเรียน นักศึกษา หรือผู้รับการฝึกอบรมซึ่งทำการฝึกหัดหรือฝึกอบรมในความควบคุมของสถาบันอุดมศึกษาของรัฐหรือสถาบันที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการให้จัดตั้งสถาบันทางสังคมสงเคราะห์ของรัฐหรือสถาบันอุดมศึกษาหรือสถาบันทางสังคมสงเคราะห์อื่นภายใต้ความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต
(๓) บุคคลซึ่งหน่วยงานของรัฐหรือองค์กรภาคเอกชนมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ในความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต
(๔) การประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตของที่ปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญซึ่งได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการ
23. ผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องเป็นสมาชิกประเภทใด
ก. สมาชิกสามัญ ค.สมาชิกสมทบ
ข. สมาชิกวิสามัญ ง. สมาชิกกิตติมศักดิ์
ตอบ ก. สมาชิกสามัญ
มาตรา ๓๑ ผู้ขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตต้องเป็นสมาชิกสามัญและมีคุณสมบัติอื่น
ตามที่กำหนดในข้อบังคับ
24. ข้อใด ไม่ใช่ จรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ก. จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมวิชาชีพ ค. จรรยาบรรณต่อสังคม
ข. จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ ง. จรรยาบรรณต่อครอบครัว
ตอบ ง. จรรยาบรรณต่อครอบครัว
มาตรา ๓๓ ข้อบังคับว่าด้วยจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ให้จัดทำขึ้นเป็นภาษาไทยและอย่างน้อยต้องประกอบด้วย
(๑) จรรยาบรรณต่อตนเอง
(๒) จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ
(๓) จรรยาบรรณต่อผู้รับบริการ
(๔) จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมวิชาชีพ
(๕) จรรยาบรรณต่อสังคม
25. โทษการประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ มีกี่ข้อ
ก. 4 ข้อ ค. 6 ข้อ
ข. 5 ข้อ ง. 7 ข้อ
ตอบ ก. 4 ข้อ
มาตรา ๓๔ โทษการประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ มีดังต่อไปนี้
(๑) ตักเตือนเป็นหนังสือ
(๒) ภาคทัณฑ์
(๓) พักใช้ใบอนุญาตโดยกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควร แต่ไม่เกินสองปี
(๔) เพิกถอนใบอนุญาต
26. การพักใช้ใบอนุญาตมีกำหนดเวลาไม่เกินกี่ปี
ก. 5 ปี ค. 3 ปี
ข. 4 ปี ง. 2 ปี
ตอบ ง. 2 ปี
27. ข้อใด ไม่ใช่ โทษการประพฤติผิดจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ก. ภาคทัณฑ์ ค. ตักเตือนเป็นหนังสือ
ข. เพิกถอนใบอนุญาต ง. ยกข้อกล่าวหา
ตอบ ง. ยกข้อกล่าวหา
28. คณะกรรมการจรรยาบรรณประกอบด้วยประธานกรรมการและกรรมการจรรยาบรรณเท่าใด
ก. 9 คน ค. ไม่น้อยกว่า 5 คนแต่ไม่เกิน 9 คน
ข. 10 คน ง. ไม่น้อยกว่า 5 คนแต่ไม่เกิน 10 คน
ตอบ ค. ไม่น้อยกว่า 5 คนแต่ไม่เกิน 9 คน
มาตรา ๓๕ ให้มีคณะกรรมการจรรยาบรรณ ประกอบด้วย ประธานกรรมการจรรยาบรรณและกรรมการจรรยาบรรณจำนวนไม่น้อยกว่าห้าคนแต่ไม่เกินเก้าคน ซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้งจากผู้ซึ่งมีความเที่ยงธรรม ซื่อสัตย์สุจริต
29. เมื่อมีผู้กล่าวหาหรือปรากฏต่อคณะกรรมการจรรยาบรรณว่า ผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ผู้ใดประพฤติผิดจรรยาบรรณ จะต้องทำอย่างไร
ก. สั่งเพิกถอนใบอนุญาต
ข. ตักเตือนเป็นหนังสือ
ค. ภาคทัณฑ์
ง. คณะกรรมการจรรยาบรรณดำเนินการสอบสวนพิจารณาโดยเร็ว
ตอบ ง. คณะกรรมการจรรยาบรรณดำเนินการสอบสวนพิจารณาโดยเร็ว
มาตรา ๓๘ เมื่อมีผู้กล่าวหาหรือปรากฏต่อคณะกรรมการจรรยาบรรณว่า ผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ผู้ใดประพฤติผิดจรรยาบรรณ ให้คณะกรรมการจรรยาบรรณดำเนินการสอบสวนพิจารณาโดยเร็ว
สิทธิการกล่าวหาและการหยิบยกขึ้นพิจารณาของคณะกรรมการจรรยาบรรณตามวรรคหนึ่งสิ้นสุดลงเมื่อพ้นหนึ่งปีนับแต่วันที่รู้เรื่องการประพฤติผิดจรรยาบรรณและรู้ตัวผู้ประพฤติผิดจรรยาบรรณหรือเมื่อพ้นสามปีนับแต่วันที่มีการประพฤติผิดจรรยาบรรณนั้น
30. ผู้ซึ่งคณะกรรมการจรรยาบรรณมีคำสั่งลงโทษประพฤติผิดจรรยาบรรณอาจอุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการได้ภายในกี่วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
ก. 60 วัน ค. 90 วัน
ข. 30 วัน ง. 45 วัน
ตอบ ข. 30 วัน
มาตรา ๔๐ ผู้ซึ่งคณะกรรมการจรรยาบรรณมีคำสั่งลงโทษตามมาตรา ๓๙ วรรคหนึ่ง หรือ
ผู้กล่าวหา อาจอุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการได้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง
31. ผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตซึ่งถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตอาจขอรับใบอนุญาตอีกได้เมื่อพ้นกี่ปี
ก. 5 ปี ค. 3 ปี
ข. 4 ปี ง. 2 ปี
ตอบ ค. 3 ปี
มาตรา ๔๔ ผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตซึ่งถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาตอาจขอรับใบอนุญาตอีกได้เมื่อพ้นสามปีนับแต่วันที่ถูกสั่งเพิกถอนใบอนุญาต แต่เมื่อคณะกรรมการได้พิจารณาคำขอรับใบอนุญาตและปฏิเสธการออกใบอนุญาต ผู้นั้นจะยื่นคำขอรับใบอนุญาตในครั้งต่อ ๆ ไปได้อีกต่อเมื่อสิ้นระยะเวลาหนึ่งปีนับแต่วันที่คณะกรรมการปฏิเสธการออกใบอนุญาต
32. ผู้ใดประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตหรือกระทำด้วยวิธีใด ๆที่แสดงให้ผู้อื่นเข้าใจว่าตนมีสิทธิที่จะประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต ต้องระวางโทษปรับไม่เกินเท่าใด
ก. ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ค. ไม่เกินสามหมื่นบาท
ข. ไม่เกินสองหมื่นบาท ง. ไม่เกินสี่หมื่นบาท
ตอบ ข. ไม่เกินสองหมื่นบาท
มาตรา ๔๕ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๒๙ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
33. ผู้ใดไม่มาให้ถ้อยคำหรือไม่ส่งเอกสารหรือวัตถุใด ๆโดยไม่มีเหตุอันควร ต้องระวางโทษอย่างไร
ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ข. จำคุกไม่เกินสองเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ค. จำคุกไม่เกินสามเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ง. จำคุกไม่เกินสี่เดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
ตอบ ก. จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา ๔๖ ผู้ใดไม่มาให้ถ้อยคำหรือไม่ส่งเอกสารหรือวัตถุใด ๆ ตามที่เรียกหรือแจ้งให้ส่งตามมาตรา ๔๒ โดยไม่มีเหตุอันควร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
34. ผู้ใดประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตซึ่งอยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต ต้องระวางโทษปรับเท่าใด
ก. ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท ค. ไม่เกินสามหมื่นบาท
ข. ไม่เกินสองหมื่นบาท ง. ไม่เกินสี่หมื่นบาท
ตอบ ก. ไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
มาตรา ๔๗ ผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๔๓ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท
35. ค่าขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาตกี่บาท
ก. ๑,๐๐๐ ค. ๓,๐๐๐
ข. ๒,๐๐๐ ง. ๒๐๐
ตอบ ค. ๓,๐๐๐
36. ค่าต่ออายุใบอนุญาตฉบับละกี่บาท
ก. ๑,๐๐๐ ค. ๓,๐๐๐
ข. ๒,๐๐๐ ง. ๒๐๐
ตอบ ก. ๑,๐๐๐
37. ค่าหนังสือรับรองการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์รับอนุญาต ฉบับละกี่บาท
ก. ๑,๐๐๐ ค. ๓,๐๐๐
ข. ๒,๐๐๐ ง. ๒๐๐
ตอบ ง. ๒๐๐
38. ค่าหนังสืออนุมัติหรือวุฒิบัตรแสดงความรู้ความชำนาญในการประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
รับอนุญาตสาขาต่าง ๆ ฉบับละกี่บาท
ก. ๑,๐๐๐ ค. ๓,๐๐๐
ข. ๒,๐๐๐ ง. ๒๐๐
ตอบ ก. ๑,๐๐๐
39. ค่าใบแทนใบอนุญาต ฉบับละกี่บาท
ก. ๑,๐๐๐ ค. ๓,๐๐๐
ข. ๒,๐๐๐ ง. ๒๐๐
ตอบ ง. ๒๐๐
40. ข้อใดคือเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้
ก. ปัจจุบันการปฏิบัติหน้าที่ของนักสังคมสงเคราะห์มีบทบาทเพิ่มมากขึ้นและครอบคลุมไปหลายด้าน
ข. ให้มีองค์กรควบคุมการประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์ในรูปของสภาวิชาชีพ เพื่อควบคุมมาตรฐานและจรรยาบรรณการประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์
ค. ให้ผู้ประกอบวิชาชีพสังคมสงเคราะห์มีคุณภาพและมาตรฐาน และมีความก้าวหน้าในวิชาชีพ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ